1.คำนวณว่าเดือนของเรา มีความสามารถในการผ่อนต่อเดือนเท่าไหร่
โดยคำนวณคร่าวๆ คือ
ฐานเงินเดือน x 40%(อัตราเฉลี่ยที่ธนาคารส่วนใหญ่ใช้คำนวณ) = ความสามารถในการผ่อนต่อเดือน
ตัวอย่าง นาย A เงินเดือน 15,000 x 40% = 6,000
2.หักด้วยภาระหนี้ถ้ามี เช่น ค่าผ่อนรถ ค่าบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลอื่นๆ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องหัก
ตัวอย่าง นาย A เงินเดือน 15,000 x 40% = 6,000
นาย A มีหนี้บัตรเครดิต 1,500 บาท/เดือน
ความสามารถในการผ่อนต่อเดือน คือ 6,000 – 1,500 = 4,500
3.คำนวณว่าจะกู้ได้วงเงินเท่าไหร่
กรณีคนที่อายุไม่เกิน 30 เท่านั้น คำนวณคร่าวๆ คือ
ความสามารถในการผ่อน x 150
จากตัวอย่าง นาย A มีความสามารถในการผ่อนต่อเดือน 4,500
นาย A มีอายุไม่เกิน 30 ปี
วงเงินที่ นาย A จะกู้ได้โดยประมาณ คือ 4,500 x 150 = 675,000
สมมุติ
– ถ้านาย A ปิดบัตรเครดิต ความสามารถในการผ่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 6,000
วงเงินที่กู้ได้ คือ 6,000 x 150 = 900,000
– ถ้านาย A เงินเดือนขึ้นเป็น 20,000 ไม่มีหนี้ ความสามารถในการผ่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 x 40% = 8,000
วงเงินที่กู้ได้ คือ 8,000 x 150 = 1,200,000
– ถ้านาย A มีแหล่งรายได้อื่นๆ นอกเหนือจากเงินเดือน และเป็นรายได้ที่มั่นคงตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร สามารถนำมารวมกับเงินเดือนได้ นาย A จะมีความสามารถในการผ่อนเพิ่มขึ้น และ ได้รับวงเงินกู้มากขึ้นตามลำดับ
สรุป
ธนาคารจะให้วงเงินกู้เท่าไหร่นั้น คิดจากความสามารถในการผ่อนต่อเดือน จากฐานเงินเดือน 40% เป็นหลัก จากนั้นหักด้วยหนี้ในระบบของผู้กู้ เหลือเท่าไหร่ก็นำมาคำนวณวงเงินที่จะให้กู้ต่อไป
ดังนั้นถ้าผู้กู้ต้องการซื้อคอนโดแล้วได้วงเงินสูง จะต้องเคลียร์หนี้ในระบบให้เหลือน้อยที่สุด และ ต้องดูราคาของคอนโดที่จะซื้อด้วยว่าเหมาะสมกับเครดิตที่เราจะกู้ไหม ถ้าราคาพอดีหรือน้อยกว่าที่เราคำนวณก็มีโอกาสกู้ผ่าน ถ้าราคาสูงกว่าที่เราคำนวณวงเงินกู้ ก็มีโอกาสผ่านยาก เพราะธนาคารมองว่าถ้าอนุมัติก็มีโอกาสเป็นหนี้เสียได้
ถ้าจำเป็นต้องซื้อคอนโดราคาสูงกว่าวงเงินที่คำนวณ จะทำอย่างไรได้บ้าง?
– วางเงินดาวน์ให้มากพอ เพื่อชดเชยในส่วนที่วงเงินกู้ไม่ครอบคลุม
– กู้ร่วม ปกติต้องเป็นผู้ที่มีสายเลือดเดียวกัน เช่น พ่อ แม่ เดียวกัน แต่บางธนาคารเริ่มมีการกู้ร่วมระหว่างเพื่อนกับเพื่อน
– วางหลักทรัพย์อื่นๆ ค้ำประกัน
ถ้าอายุมากกว่า 30 ใช้วิธีคำนวณแบบนี้ไม่ได้ ต้องทำยังไง หรือจะกู้ได้ไหม ?
– ปกติธนาคารจะให้กู้ได้ไม่เกินอายุ 60 ปี ถ้าอายุมากกว่า 30 ไปมาก หมายความว่าระยะเวลาในการผ่อนก็จะน้อยลง จำนวนเงินที่จะผ่อนต่อเดือนก็จะมากขึ้น ดังนั้นต้องปรึกษาฝ่ายสินเชื่อของธนาคาร เรื่องเงื่อนไขต่างๆ
ถ้าทำกิจการส่วนตัว หรืออาชีพอิสระ ไม่มีเงินเดือนจะกู้ได้ไหม?
– กู้ได้ แต่หลักเกณฑ์และเอกสารจะมากกว่าอาชีพพนักงานเงินเดือน เช่น เอกสารการจดทะเบียนห้างร้าน บริษัท รายการเดินบัญชีธนาคารที่แสดงรายได้ หลักฐานการเสียภาษี หลักฐานการรับเงิน ในเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ฯลฯ ทั้งนี้ผู้กู้ควรติดต่อสอบถามฝ่ายสินเชื่อธนาคารเพื่อขอคำแนะนำโดยตรง